เลมเบห์เสตรท
จบไป 2รีสอร์ทที่บูนาเค็น ที่เลมเบห์เสตรทก็อีก 2รีสอร์ทเริ่มกันที่คาซาวารี เลมเบห์ รีสอร์ท (Kasawari Lembeh Resort) อยู่ห่างจากมานาโดแอร์พอร์ทหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเลมเบห์เสตรท ห่างจากจุดดำน้ำเพียงไม่กี่นาที คาซาวารีฯ เป็น boutique lifestyle dive resort โก้หรู สะดวกสบาย ไม่ใหญ่เกินไป ด้วยการบริการที่มีอัธยาศัยดีตอนรับขับสู้ อาหารก็อร่อยถึงใจคนไทย นี่ก็อาจจะเป็นเพราะว่ารีสอร์ทนี้เจ้าของเป็นคนไทย คือ คุณนุประพัทธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ซึ่งเคยเป็นเจ้าของเรือ Aqua One Liveaboard เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักดำน้ำ ห้องพักในรีสอร์ทนี้จะถูกล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติของต้นไม้เล็กใหญ่และต้นมะพร้าว มีสระว่ายน้ำและที่นอนเล่นพักผ่อนติดกับ dive centre ยื่นออกไปที่หน้าหาด พูดถึง dive centre ที่นี่มีเนื้อที่มาก ที่สำคัญสะอาดไม่เปียกแฉะ ทุกอย่างจะถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ มีส่วนเตรียมตัวก่อนและหลังจากดำน้ำ ซึ่งอยู่ริมฝั่งน้ำสามารถเดินไปที่ jetty ได้อย่างง่ายดาย ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแยกจากห้องน้ำ ที่อาบน้ำร้อนน้ำเย็น (ปกติรีสอร์ทอื่นจะมีแต่น้ำเย็น) อันนี้เขมชอบมาก ล้างตัวด้วยน้ำอุ่นหลังจากดำน้ำ โหย…สบายอย่าบอกใคร! ยังมีที่ล้างอุปกรณ์ดำน้ำ ถังแช่กล้อง และห้องสำหรับช่างภาพทั้งหลาย จะเอาอะไรก็มีหมดล่ะค่ะ เรือดำน้ำยาว 12 เมตรก็ถูกออกแบบพิเศษเพื่อความสะดวกสบายของนักดำน้ำ… 10
ห้องพักที่นี่เป็นวิลล่ามีระเบียงส่วนตัวทุกห้อง ในห้องกว้างขวาง (วิ่งเล่นได้เลย) ขอบอกเตียงนอนนุ่มสบายมากๆๆๆๆๆๆๆ เช้าๆ ไม่อยากลุกจากเตียงเลย ห้องน้ำใหญ่ (เขมชอบ) มีห้องอาบน้ำภายในและภายนออก พร้อม amenities ต่างๆ Wi-Fi zone เครื่องเล่นแผ่นซีดี มินิบาร์ ตู้เซฟ ฯลฯ ยิ่งกว่าครบเสียอีก คาซาวารีฯ มีห้องอาหารเดียวเหมือนรีสอร์ทอื่น ซึ่งอยู่ชั้นบนของลอบบี้ เป็นห้องอาหาร ห้องนั่งเล่น mini library ด้วยอะค่ะ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเลมเบห์เสตรทแบบ panorama อาหารเป็นเมนูนานาชาติและแน่นอนอาหารไทยแบบบุฟเฟ่หรือตามสั่ง ที่คาซาวารีฯ ดำน้ำวันละ 3-4 ไดฟ กับ dive leader ที่มีประสบการณ์ดำน้ำกว่าหนึ่งหมื่นไดฟ แล้วก็ professional ด้วยค่ะ Leader ของเขมน่ารักมาก ชื่อ Nonsix ดำน้ำด้วยกันจนซี้ Nonsix ดำเหลือเกินจึงไม่ค่อยเห็นหน้าในรูป ในแต่วันที่คาซาวารีฯ จะเป็นดังนี้ – 06.30 น. อาหารเบาๆ ลองท้อง ชา กาแฟ 07.30 น. ไดฟแรก 09.00 น. อาหารเช้า 11.00 น.ไดฟสอง 13.00 น. อาหารกลางวัน 15.30 น. ไดฟสาม 16.30 น. อาหารว่าง จะทานที่ dive centre หรือจะให้ไปเสริฟถึงห้องก็ได้นะ 17.30 น. ไดฟตกค่ำซึ่งเป็นเวลาไปดูปลาแมนดาริน หรือ 18.00 น.ไนท์ไดฟ 19.30 น. อาหารค่ำ หลังจากดำน้ำขึ้นมาที่เรือทุกไดฟ บนเรือจะมีบริการผ้าร้อน อันนี้เขมก็ชอบอีก มันช่วยลดความหนาวได้ดีเลยค่ะ และทุกไดฟเรือจะวิ่งกลับมาที่รีสอร์ท ซึ่งเราสามารถพักผ่อนริมสระน้ำ เปลี่ยนถ่านกล้อง ทำธุระจิปาถะได้ตามใจฉัน อย่างเช่นแอบไปใช้บริการนวด แช่ jacuzzi มันชั่งสบายจริงๆ แหมไม่อยากบอกเลยว่า…. ที่นี่เค้ามี Surprise เค็กวันเกิดให้เขมด้วยน้า ตกใจเหมือนกัน ไม่รู้ว่าไปเตรียมกันตอนไหน “It was just a little touch but it could make anybody happy” J ดูซิคะว่าคุณนุประพัทธ์ดูแลเอาใจใส่นักดำน้ำขนาดไหน มาที่นี่อยู่อย่างหรู บริการทุกระดับประทับใจ ไม่มีรีสอร์ทไหนสบายเท่าที่นี่แล้วอะ เขมให้ที่นี่ 5 ดาว เอาไปเลยค่ะ บริการขนาดนี้ถ้าเป็นชาวต่างชาติต้องเป็นปลื้ม ชาวสยามอย่างเราต้องยิ้มไปอีกนาน
กุงกุงกัน เบย์ รีสอร์ท(Kungkungan Bay Resort) หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า “KBR” เป็นรีสอร์ทแรกในเลมเบห์เสตรท เปิดตั้งแต่ปี 1994 โดยทีมที่ให้การใส่ใจในเรื่องระบบนิเวศน์ทางทะเลและทรัยพกรพื้นดิน รีสอร์ทนี้จึงสร้างขึ้นโดยปราศจากการทำลายต้นไม้ ถ้าต้องตัดต้นใดต้นหนึ่ง เค้าจะปลูกต้นใหม่ทดแทน โครงสร้างและเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นในรีสอร์ททำมาจากไม้ของต้นมะพร้าวที่ถูกต้นทิ้งรอบๆ รีสอร์ทที่นี่ชุ่มช่ำเต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ พนักงานของรีสอร์ทเป็นคนที่อยู่ในหมู่บ้านข้างเคียงที่ได้การฝึกอบรมในเรื่องของการบริการ มีสัมพันธไมตรีดี บริการดี ผู้ก่อตั้งรีสอร์ทนี้เห็นว่าการใช้ทรัพยากรบุคคลเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ถือว่าเป็นการช่วยเหลือส่งเสริมรายได้ให้แก่ครอบครัวของพวกเขา KBR ตั้งอยู่ใจกลางเลมเบห์เสตรทติดกับคาซาวารีฯ ก็ว่าได้ เช่นกัน KBR อยู่ใกล้จุดดำน้ำแต่ละจุดโดยสปีทโบ๊ทภายใน 15 นาที KBR มีห้องพัก 3 แบบจากทั้งหมด 17 ห้อง 1) แบบคอทเทจ (CottageSuites) เป็น 2 ห้องติดกันภายใต้หลังคาเดียวกัน มากับเพื่อน 4 คนห้องนี้อะเหมาะ แต่ไม่มีทีวีนะ มีห้องนั่งเล่นแยกจากห้องนอน 2) แบบโบราณ (TraditionalHouses) ห้องนี้มี Cable TV สามารถนอนได้มากถึง 4 คน ห้องแบบนี้จะดีกว่าแบบคอทเทจแต่ราคาก็แพงกว่า 3) Deluxe ห้องนี้สำหรับ 2 คน ดีสำหรับคู่ฮันนีมูน มีราคาแพงที่สุด เพราะมี Satellite TV, Room service อ่างอาบน้ำและระเบียงส่วนตัว ห้องนี้ให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าห้องอื่น ห้อง 3 ลักษณะภายนอกดูเหมือนบ้านชาวพื้นเมืองมินาฮาซา แต่ภายในดูทันสมัยมี Wi-Fi และสิ่งอำนวยความสะดวกครบมาตรฐาน สะดวกสบาย ปลอดภัย ห้องอาหารที่นี่วิวสวย อยู่บนหาดและตัวอาคาร 2 ชั้นยื่นออกไปที่ทะเล เมนูก็เหมือนๆ รีสอร์ททั่วไป เป็นอาหารนานาชาติและอาหารอินโดฯให้บริการอยู่ชั้นล่าง เป็นบุฟเฟ่ตลอด 3 มื้อ ครัวเปิด 24 ชั่วโมง ชั้นบนเป็นที่พักผ่อนนั่งเล่น มี Internet café บาร์ พร้อม Satellite ทีวีจอแบนขนาดใหญ่ ห้องสมุด ถ้าวันไหนอากาศดีก็จะมีบาร์บีคิวริมสระว่ายน้ำ ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำ free form เป็นที่ที่พักผ่อนที่ดีระหว่างพักหลังดำน้ำ KBR มี facilities ให้แก่นักดำน้ำสมบูรณ์แบบ ห้องอุปกรณ์กล้องถ่ายรูป ถังแช่กล้อง ที่อาบน้ำล้างตัวน้ำร้อนน้ำเย็น ก็เหมือนคาซาวารีฯ แต่แค่ไม่สะอาดและเป็นสัดส่วน ตารางกิจกรรมที่นี่ก็คล้ายกัน 08.15 น. ไดฟแรก 11.15 น. ไดฟสอง 14.45 น. ไดฟสาม หลังจากทุกไดฟจะกลับมาพักผ่อนทานอาหารที่รีสอร์ทที่นี่ก็มีผ้าร้อนบริการบนเรือหลังดำน้ำนะคะ เนื่องจากทีมผู้ก่อตั้งและผู้บริหารเป็นผู้อนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์โลก KBR จึงเป็นรีสอร์ทที่มีกฎระเบียบดำน้ำเคร่งครัดมากถึงมากที่สุด โดยปกติก็ห้ามใส่ถุงมืออยู่แล้ว ห้ามใช้แห ห้ามตกปลา ห้ามทิ้งสมอเรือ ห้ามทิ้งเศษอาหารลงทะเล ห้ามจับสัตว์น้ำ ห้ามจับประการัง ห้ามทุกข้อเลย! ที่ KBR ยังมี house reef ที่เราสามารถลงไปดำเองระหว่าง 08.00 – 17.00 น. ได้โดยไม่ต้องมี leader แต่ต้องมีบัดดี้ และจะดำกี่ครั้งก็ได้ ตรง house reef ที่นี่เค้าทำวิจัยและสงวนไว้เพื่อนักดำน้ำของเค้า เป็นอีก dive site หนึ่งที่ควรลง กำยำสมบูรณ์มากค่ะ สตีฟ (Steve) เป็น resort manager ที่นี่ นักดำน้ำทั้งหลายอย่าทำอะไรไม่ดีให้เค้าเห็นนะ เดี๋ยวเป็นเรื่อง อย่าหาว่าเขมไม่เตือนอะ…. รู้ไหมค่ะว่าหนึ่งครั้งที่คุณจับประการังหรือปลา สามารถนำพาแบคทีเรียให้กับพวกมันและนำไปสู่ความตายในที่สุด เพราะประการังหรือปลามีเมือกบางๆ ปกคลุม ซึ่งทำหน้าที่ป้องกันจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ถ้าเราไปจับมันเมือกก็จะหลุดออก เคยสังเกตไหม๊ละว่าเมื่อเอา pointer ไปจิ้มจะมีน้ำเมือกสีขาวๆ ติดมาด้วย นั่นละคือสิ่งที่เราไปเอาออกจากตัวมัน การย้ายสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งก็เหมือนกัน เราอาจทำให้มันตายโดยไม่รู้ตัว สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตพวกนี้บอบบางมากและต้องอยู่อาศัยในบริเวณที่คุ้นเคย ถ้าเราไปเขี่ยๆ ย้ายมันสามารถเป็นอันตรายได้ Nudi ก็ห้ามจับนะ ความตายมารอเลยอะค่ะ ความจริงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ก็สำคัญนะคะ ก่อนลาจากรีสอร์ทคราวนี้ไม่ได้ทำตาม routine ที่ต้องไปสปา แต่พนักงานรีสอร์ททุกคนมายืนส่งที่หน้า reception แล้วร้องเพลงให้ฟังโบกมือลา เป็นภาพที่น่าประทับใจมาก ดิฉันยืนเงียบฟังจนจบเพลง พูดไม่ออกเพราะซึ้งมั่กๆ ค่ะ
ใครบางคนอาจจะสังเกตว่า Eco Divers คืออะไร? Eco Divers เป็น PADI 5 Star Gold Palm IDC Resort สามารถให้บริการแบบพิเศษอีกขั้นหนึ่งของการฝึกอบรมดำน้ำระดับ instructor ภายใต้ PADI Gold Palm Instructor Development Center (IDC) แปลว่า Eco Divers สามารถให้การเรียนการสอนดำน้ำในเครือของ PADI ให้แก่นักท่องเที่ยวตั้งแต่ Open water ถึงระดับ instructor แต่เพียงผู้เดียว Eco Divers ก่อตั้งโดยคู่สามีภรรยาชาวอังกฤษ Jim & Cary Yanny ที่รักการดำน้ำเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งมีประสบการณ์มามากกว่า 30 ปี และเป็นเจ้าของร่วมผู้ชนะเลิศรางวัล Emperor Divers เป็น liveaboard ที่ Red Sea ประเทศอียิปต์ Cary เคยดำรงตำแหน่ง Executive Director ของ
Hurghada Environmental Protection & Conservation (HEPCA) ซึ่งเป็นองค์กรพิทักษ์และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของทะเลแดง… Eco Divers เป็นผู้ดำเนินกิจการทางธุรกิจดำน้ำอย่างเดียว ไม่เกี่ยวข้องกับการจองห้องพักที่รีสอร์ทซึ่งพวกเขาเข้ามาดำเนินธุระกิจที่ KBR ในปี 2004 และปี 2008 ที่คีมา บาโจ้ รีสอร์ทแอนด์ สปา เป็นอีกแห่ง แต่ก่อนหน้านั้นเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกิจการทางธุระกิจดำน้ำที่ทักซิก เรียฯ ในปี 2000 เรือของ Eco Divers เป็นเรือต่อพิเศษเพื่อความสบายของนักดำน้ำและสิ่งแวดล้อม มีการจัดกลุ่มดำน้ำ 4 คนต่อ 1diver leader ที่มีประสบการณ์ดำน้ำสูง เรือ 3 ชั้นกว้างขวาง สะอาด ดาดฟ้าใหญ่นอนแผ่อาบแดดได้สบาย แม้กระทั่งห้องน้ำบนเรือถูกออกแบบไม่ให้มีการทิ้งน้ำโสโครกลงทะเล การให้คุณภาพที่ดีแก่นักดำน้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเค้า และ Eco Divers ยังมีภาระหน้าที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งบางครั้งเราจะเห็น dive leader ลงไปเก็บขยะใต้น้ำ Eco Diversยังเป็นหนึ่งในสมาชิกของ North Sulawesi Watersports Association (NSWA) ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบคุ้มครองสัตว์และแนวปะการังใต้ทะเล เข้าร่วมโครงการวิจัยต่างๆ ในการช่วยเหลือสนับสนุนชุมชนสัตว์ทะเลไม่ให้เกิดการเสียหายจากนักท่องเที่ยว Eco Divers ต้องการที่จะปกปักรักษาโลกใต้น้ำให้ได้นานแสนนานเพื่อนักดำน้ำรุ่นหลังหรือเพื่อให้เราได้กลับมาดูได้อีกไงค่ะ ง่ายๆ ทุกอย่างที่ Eco Divers ทำไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม จะเป็น environmental friendly ด้วยประสบการณ์ของ Jim และ Carry ผนวกกับความสมบูรณ์ของใต้น้ำที่เกาะสุลาเวสี เชื่อใจได้เลยว่าการดำน้ำทั้งที่บูนาเค็นและเลมเบห์เสตรทจะเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนเหมือนกับเขมเช่นกันค่ะ
เมื่ออ่านบทความนี้จบแล้ว ช่วยตอบคำถามด้วยนะคะว่า ดำน้ำครั้งนี้เขมเห็นปลากบกี่สีกี่ตัว และเขมเอ่ยเกี่ยวกับปลากบในบทความกี่ครั้ง? ช่วยโพสทคำตอบและแจ้งอีเมล์ของคุณด้วย เพราะเขมมีรางวัลให้ โรงเแรมบูติก 2 คืนที่ภูเก็ตค่ะ ใครตอบถูกก่อนได้ก่อนนะคะ ง่ายๆ เขมจะดูจากความคิดเห็นข้างล่างนี้ค่ะ Good luck!